รีวิวเคลมประกันชีวิตAIA มอบเช็คเร็วภายในงานศพ

ออกตัวก่อนนะครับว่าโจ้ยังไม่เคยทำเคลมประกันชีวิตกรณีลูกค้าเสียชีวิตมาก่อน จึงอยากมารีวิวให้เพื่อเป็นประโยชน์กัน กรณีนี้เป็นคุณแม่ของลูกค้าโจ้ซึ่งมีประกันอยู่แล้ว ลูกทำประกันกับโจ้ แต่แม่ทำประกันกับเพื่อนแม่ซึ่งตัวแทนประกันของคุณแม่ได้เสียชีวิตไปแล้วและทีมของตัวแทนก็อยู่ต่างจังหวัด โจ้ก็ยินดีที่จะดูแลแทนให้ จนตอนหลังลูกค้าขอโอนเปลี่ยนให้โจ้เป็นตัวแทนบริการแทน (อ่านเรื่องการเปลี่ยนตัวแทนได้ตอนท้าย) จนมาได้ดูแลเคลมประกันให้จนถึงวันสุดท้าย

ลูกค้ามีทำประกันทั้งโรคร้ายแรง ค่ารักษาพยาบาลและประกันชีวิตเอาไว้ โดยการเสียชีวิตในครั้งนี้เนื่องจากมะเร็งก็จะได้เงินจากประกันมะเร็งเพิ่มไปอีก 1 ล้าน การเสียชีวิตค่อนข้างชัดเจนแล้วก็เสียชีวิตในโรงพยาบาล ตลอดระยะเวลาในการรักษา ก็มีเบิกเคลมประกันมะเร็งและค่ารักษาอยู่  3-4 รอบรวมเกินล้าน ไม่มีติดขัดใดๆ ตามที่รีวิวไว้  เคลมประกันมะเร็ง 5 แสนภายใน 5 วัน ตรงนี้บริษัทก็ทราบประวัติอยู่ และเราพูดคุยอัพเดตกับลูกค้าตลอดแม้ในรอบสุดท้ายก่อนวันที่ลูกค้าเสียชีวิต ยังคุยอยู่เลยว่าจะทำเรื่องเบิกเคลมบางส่วนให้ก่อนไหม แต่…

จนเมื่อวาระนั้นใกล้มาถึง ทางญาติได้แจ้งให้โจ้ทราบก่อน โจ้จึงได้เตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม เราให้เวลาส่วนตัวกับญาติอย่างเต็มที่โดยไม่กวนเลย โจ้ฝากเอกสารไว้ที่เคาน์เตอร์พยาบาลหน้าห้อง ระบุช่องที่ต้องเซ็นต์เพื่อคุณหมอจะได้เซ็นต์ได้รวดเร็ว  ให้เบอร์โทรติดต่อพยาบาลฝากแจ้งหากมีอะไร รวมทั้งขอเบอร์โทรเคาน์เตอร์ WARD นี้ไว้ด้วยเผื่อเราโทรถามอาการเอง เมื่อกลับมาถึงบ้านยังไม่ถึงชั่วโมงดี ทางโรงพยาบาลเค้าโทรมาแจ้งว่าเสียชีวิตแล้ว…จึงได้ถามถึงตารางเข้าของหมอประจำตัวคนไข้ เพื่อจะมารับเอกสารในวันถัดไป

เอาล่ะ หน้าที่ของเราดำเนินต่อ เราให้ญาติอยู่กับนาทีของเขา เพียงแจ้งว่าเรื่องประกันไม่ต้องกังวล เมื่อวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ก็ไปโรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องขอสำเนาใบมรณบัตร และคุณหมอมาตอนบ่าย ได้ใบรับรองจากคุณหมอ พร้อมประวัติการรักษา 

เรามาในเวลาที่คุณหมออยู่ ตรวจสอบเอกสารซึ่งระบุในว่าเสียชีวิตเนื่องจาก “ติดเชื้อในกระแสเลือด” จึงขอพยาบาลให้บอกคุณหมอว่าระบุเพิ่มอีกนิด “และมะเร็ง” เพราะเรารู้ว่าคำนี้จะทำให้เคลมง่ายขึ้น ลูกค้ามีอีก 1 ล้านกรณีเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งได้ไม่ติดขัดแน่ ( ที่จริงจากประวัติการรักษาก็ชัดอยู่แล้วล่ะ โจ้อาจจะละเอียดไปหน่อย กลัวเบิกเคลมช้า)  คุณหมอท่านเขียนเพิ่มให้ เราก็มั่นใจล่ะ 

พยาบาลมีถามว่าเราเป็นตัวแทนประกันที่ไหน เราก็ตอบว่า ตัวแทนประกัน AIA ครับ ถามเค้าว่าทำไมเหรอ ติดขัดเรื่องเคลมยากหรืออะไรหรือเปล่า พยาบาลกลับบอกว่า เห็นดูแลละเอียดดี สนใจจะซื้อเพราะประกันกลุ่มวงเงินคงไม่พอใช้ อันนี้แอบดีใจมากเลยนะ คือ เค้าเห็นเราหน้างาน มันตอบทุกอย่างแทนเราไปหมดล่ะ เราให้นามบัตรไว้แล้วก็รีบไปต่อ  

บ่ายนั้นเสร็จธุระจากโรงพยาบาลก็ไปที่วัดต่อ โจ้ได้ไปรดน้ำศพ ส่งลูกค้าไปสู่สุขติ ร่วมงานสวด และจัดการเรื่องเอกสารอีกให้เรียบร้อย เพราะต้องใช้ลายเซ็นต์ของผู้รับผลประโยชน์ สำเนาบัตรประชาชน

วันจันทร์ก็รีบส่งเอกสารเท่าที่มีให้บริษัทก่อนเพื่อจะได้เริ่มพิจารณาเคลม แม้บางส่วนยังไม่ได้ แต่ขอส่งทีหลัง เอกสารที่ใช้กรณีเคลมเสียชีวิตเนื่องจากโรคทั่วไปมี 

• ของผู้เสียชีวิต: สำเนาใบมรณบัตร, สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เอาประกัน ซึ่งประทับตรา “ตาย” , เล่มกรมธรรม์ประกันชีวิต (ถ้าหาย ใช้ใบแจ้งความ) 
• ของผู้รับผลประโยชน์:  สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน
• ของโรงพยาบาล: ใบรายการการแพทย์ หมอเซ็นต์, ประวัติรักษา 
• ของตัวแทน: เอกสารแจ้งเคลม รายงานประกอบการพิจารณาสินไหมมรณกรรม 

เอกสารนั้นโจ้ได้มาบางส่วนและรีบส่งบริษัทให้ก่อน ได้แจ้งให้หัวหน้าโจ้ช่วยคุยกับบริษัทให้ว่ากรณีนี้ปกติ มีประวัติชัดเจน อยากจะขอเร่งการออกเช็คส่วนประกันชีวิตให้หน่อย เพราะลูกค้ามีค่าใช้จ่ายรอบสุดท้ายที่โรงพยาบาล เกิน 700,000 บาท เงินประกันชีวิตงวดสุดท้ายเกือบ 3 ล้านบาทนี้แหละ ( ประกันชีวิตอย่างน้อยควรจะทำวงเงินซัก 1 ล้านนะครับ เผื่อค่าใช้จ่ายตัวเองนั่นแหละครับที่คนข้างหลังต้องจ่าย กรณีนี้ชัดเจนครับ หากมีลูก หรือพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู กิจการต้องไปต่อ ก็ทำให้พอดีกว่าครับ )​ ที่ให้เค้าช่วยค่ารักษาก้อนนี้ก่อนตัดรอบบัตรเครดิตได้  ที่จริงลูกค้าไม่กระทบเรื่องการเงินเลยนะครับ แต่โจ้ก็เร่งให้ทุกเคสของลูกค้าแหละครับ 

งานศพยังไม่ทันเสร็จ วันบริษัทออกเช็คให้แล้ว ไปรับได้ คือ ดีใจแทนลูกค้ามาก และบริษัทก็ขอให้ส่งเอกสารอื่นๆตามมาให้ครบ โจ้ได้แจ้งลูกค้าในทันที แต่ลูกค้ายังอยู่ในการเตรียมการวันเผา จึงรอให้พิธีเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างก่อน เรารอไปรอมอบหลังพิธีในวันเผาศพ ลูกค้ารับเช็ค มองมาที่เราแล้วก็บอกว่าขอบคุณมากจริงๆ ในวันที่ยุ่งวุ่นวาย ไม่สามารถมาตามเรื่องตรงนี้ โจ้ก็มาช่วยให้มันเรียบร้อย 

การมางานฌาปณกิจครั้งนี้นั้น สำหรับโจ้ มันคือการทำงานให้เสร็จสมบรูณ์แด่คุณลูกค้าให้จากไปได้อย่างสบายใจ คือเราบอกเค้าในใจว่าทุกอย่างที่เค้าได้เลือกทำไว้ เปิดโอกาสให้โจ้ดูแล ประกันที่เค้ามี เราตามเก็บผลประโยชน์ให้เค้าครบได้อย่างรวดเร็วที่สุด และเราจะดูแลประกันของลูกๆเค้าให้ดีที่สุด เราบอกลาว่าให้เค้าหมดห่วงไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ได้เต็มปากจริงๆ และเราก็อิ่มใจที่ได้ช่วยเรื่องประกันเค้าตั้งแต่เข้าออกโรงพยาบาลใน 3-4 ครั้ง จนถึงส่งสู่สวรรค์ นี่แหละอาชีพของตัวแทนประกันอย่างโจ้ 

คนรุ่นพ่อแม่เค้าก็จะทำประกันกับรุ่นพ่อแม่ ได้ดูแลกันไป ถ้าพ่อแม่ซื้อประกันชีวิตวงเงินสูงสร้างมรดกเงินสด ประกันสุขภาพเพิ่มหรือซื้อประกันสุขภาพให้ลูก เลือกตัวแทนประกันกับคนรุ่นถัดมาก็ดีนะครับ มีอายุกลางๆ เพราะจะมีทั้งประสบการณ์และอายุงานประกันที่มั่นใจ ต้องพูดตามตรงว่าเราไม่รู้ว่า “ใครจะไปก่อนกัน” หรอกเนอะ ระหว่างตัวแทนประกันกับลูกค้า การมีตัวแทนดูแลมากกว่าหนึ่งคน น่าจะดีกว่า  แต่ถึงกรณีที่ตัวแทนเสียชีวิตก่อนจริงๆก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะว่ากรมธรรม์นั้นทำกับบริษัทประกันภัยเอไอเอซึ่งมั่นคงอยู่แล้ว และผลของกรมธรรม์ก็มีระบุอยู่ในเล่มอยู่แล้ว บริษัทจะส่งให้ตัวแทนในหน่วยงานเดียวกันหรือทีมอื่นดูแลแทน 

เพียงแต่การมีตัวแทน จะช่วยในการดำเนินเรื่องติดต่อประสานงานเบิกเช็คเคลมให้ เป็นความอุ่นใจที่มีอะไรสอบถามตัวแทนได้และการดำเนินงานก็อาจจะเร็วกว่าทำเรื่องเอง  นี่เป็นเหตุผลจริงที่ลูกค้าบอกโจ้ และเลือกให้โจ้เป็นตัวแทนประกัน แม้ว่าจะมีประกันกับเพื่อนแม่ ญาติ รุ่นน้าอาที่บ้านแล้ว หมดยุคการซื้อประกันกับคนรู้จักแล้วไม่เอาค่าคอมมิชชั่นแล้วก็ทิ้งกรมธรรม์ให้กำพร้าโกรธกันไปก็มี ก็เค้าไม่น่าจะอยู่ในอาชีพได้นานนะครับและก็ผิดจริยธรรมด้วย ทำร้ายตัวแทนประกันที่ตั้งใจทำงาน เราก็ตั้งใจทำของเราต่อไปนั้นแหละครับ เชื่อว่าการเลือกซื้อประกันไม่ได้ดูว่าใครลดได้มากที่สุดเหมือนช้อปออนไลน์ แต่ผลงานจะเป็นตัวชี้วัด คนซื้อประกันก็อยากจะเคลมได้จริง ไม่อย่างนั้นตัวเลขก็ไม่มีความหมายเนอะ โจ้ก็ต้องขอขอบคุณในทุกโอกาสนะครับ ถ้ายินดีให้โจ้บริการก็ติดต่อมานะครับ การเลือกทำประกันชีวิตและสุขภาพนั้นตัวแทนสำคัญมากกว่าแค่เปรียบเทียบเบี้ย วงเงิน (อันนี้ลูกค้าก็บอกเองอีก) คือ วงเงินเคลมเยอะ แต่ตัวแทนไม่ดูแลผลประโยชน์ให้เลยก็มี   

อนึ่งเรื่องเปลี่ยนตัวแทนประกัน ทางบริษัทจะเรียกว่าเป็น “ตัวแทนบริการ” คือไว้บริการลูกค้าอย่างเดียวจะไม่ได้รับผลประโยชน์ค่าคอมมิชชั่นใดๆเลย แม้ลูกค้าจ่ายเบี้ยปีต่อไป ผลประโยชน์ก็จะมาไม่ถึงคนนี้ครับ  สิ่งที่ตัวแทนบริการจะทำได้คือสามารถเช้าถึงข้อมูลลูกค้า ดูแลการเคลม และเดินเรื่องเอกสารได้เท่านั้น บริษัทออกกฎนี้มาเพื่อไม่ให้ตัวแทนแย่งลูกค้ากัน มียกเว้นบางกรณีน้อยมากเท่านั้น ซึ่งโจ้ก็เห็นด้วยนะครับ เป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ตัวแทนนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายเองทั้งการเดินทาง เวลา การทำงานต่างๆ หรือเรียกรวมๆว่าค่าการทำงาน ดังนั้น แนะนำว่าหากเห็นใจตัวแทนบริการ เปิดซื้อกรมธรรม์ใหม่กับตัวแทนคนนั้นเค้าจึงได้มีปัจจัยทำงาน (เพราะตัวแทนประกันไม่มีเงินเดือน) และสามารถตามเคลมทุกฉบับของคุณลูกค้าได้ครับ