เคลมประกันมะเร็ง 5แสน เช็คเงินสดถึงมือภายใน 5 วัน

วันนี้ขอเล่าเคสที่ตัวเองยังประทับใจในความเร็วของการอนุมัติจ่ายเช็คเคลมประกันมะเร็ง 1 ใน 40 โรคร้ายแรงของAIA เป็นเคสที่ลูกค้าไม่ได้ซื้อประกันกับโจ้ แต่โจ้ได้มีโอกาสบริการให้บุตรของลูกค้า เมื่อทราบว่าแม่ของลูกค้าป่วยจึงถามไถ่ อาสาดูแลด้านประกันให้และยิ่งเมื่อพบว่าเป็นมะเร็งก็ขออาสาทำเรื่องเคลมให้ วันนี้จึงขอมารีวิวขั้นตอนการเคลมประกันมะเร็งที่ได้เช็คเงินสดจริง แล้วก็ค่อนข้างเร็วกว่าที่หลายๆคนคิด มาเล่าสู่ประกันกันฟังให้น่าสนใจผ่านการนับถอยหลังเลข 10 ถึง 1 ตามนี้เลยครับ

10: 10 กว่าปีที่แล้ว คุณแม่ลูกค้ามีซื้อประกันสะสมทรัพย์ของ AIA  โดยมีประกันสุขภาพพ่วงอยู่ด้วยบางส่วน ซึ่งมีประกันโรคร้ายแรงด้วย โดยประกันโรคร้ายแรงในสมัยนั้นมีให้ซื้อ 2 แบบคือ หากเจอ 40 โรคร้ายแรง (มีมะเร็งระยะลุกลามเป็น 1 ใน 40 โรคด้วย) จะได้รับเงินก้อน และลูกค้าก็มีซื้อความคุ้มครองไว้ที่ 500,000 บาท และอีกแบบคือนอนโรงพยาบาลเนื่องจากมะเร็งทุกระยะจะได้ค่าชดเชยค่าห้องคืนละ 10,000 บาท

9:  ช่วงเดือน 9 ปี 2018 ที่เพิ่งผ่านมา เจ้าของกรมธรรม์มีอาการปวดท้อง จึงได้เข้าพักรักษาตัวและผ่าตัดใหญ่ที่โรงพยาบาล นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 9 วัน โดยในครั้งนั้นมีการนำชิ้นเนื้อออกมาตรวจด้วยแต่ยังไม่ทราบผลว่าเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย โดยได้ยื่นบัตรประกันเอไอเอไปให้ตัดจ่ายเงินอัตโนมัติกับค่ารักษาได้เลย

8: ประมาณ 8 วันต่อมาผลตรวจจากห้องแล็บ lap ออกมาพบว่าเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย

7: เมื่อโจ้ทราบผล ซึ่งแม้โจ้ในฐานะตัวแทนต่างหน่วยก็รีบตรวจสอบผลประโยชน์ให้ว่ามีประกันอะไรบ้าง โดยจะต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเพื่อ verify (ตัวแทนประกันจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าท่านอื่นๆที่ไม่ใช่ของตัวเองได้ทั้งหมด)  และพบว่ามีประกันมะเร็งแบบเจอแล้วจ่ายเงินก้อน จึงได้เตรียมเอกสารในการเคลมประกันมะเร็ง ซึ่งใช้เอกสาร 3 อย่างดังนี้  ใบเคลมทั่วไป ใบเคลมมะเร็ง ใบผลตรวจชิ้นเนื้อโดยมีแพทย์เซ็นต์กำกับ  และขอใบรับรองแพทย์ (โดยเอกสารการเคลมประกันมะเร็งแต่ละส่วนของร่างกายนั้นแตกต่างกัน ใบเคลมสามารถโหลดได้ที่  https://www.aia.co.th/th/help-support/form-library.html ) โจ้ได้มอบเอกสารไว้ให้ลูกค้าไว้เพื่อให้หมอเซ็นต์ในวันที่เข้าพบตามที่นัด โดยคิวหมอได้ 7 วันหลังจากที่รู้ผล

6: เมื่อลูกค้าพบหมอ ได้รับเอกสารและการเซ็นต์เรียบร้อย ก็ได้นัดโจ้ไปรับเอกสารประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ 3 ต.ค. หลังจากนั้นโจ้ได้ช่วยตรวจสอบ กรอกรายละเอียดส่วนกรมธรรม์เพิ่มเติม เพื่อเตรียมส่งเอกสารให้ครบถ้วน

5: วันที่ 5 ต.ค. ทางบริษัทได้รับเอกสาร และข้อมูลครบทุกส่วนที่ต้องใช้พิจารณา

4: ใช้เวลาเพียง 4 วันทำการ คือ วันที่ 10 ต.ค. ที่เราได้รับแจ้งว่าเช็คเคลมประกันมะเร็งอนุมัติแล้ว 500,000 บาทไปรับได้เลย

เอกสารพร้อมเช็คเคลมประกันมะเร็ง อนุมัติ ณ​ วันที่ 9 ต.ค. (เพียง 4 วันทำการหลังจากยื่นส่งเคลม)

3: ซึ่งจากเอกสารพบว่า บริษัทอนุมัติตั้งแต่ 9 ต.ค. แล้ว ใช้เวลาอนุมัติเพียง 3 วันทำการ เร็วไปอีก เพียงแต่คงจะออกเช็คเสร็จช่วงเย็น จึงได้ส่งเช็คมาถึงเราในวันถัดมา

2: นอกจากเช็ค 500,000 บาทที่จะให้ลูกค้าแล้ว โจ้ได้ตรวจสอบพบว่าลูกค้ายังจะได้แบบประกันมะเร็งตัวที่ 2 คือค่าชดเชยในการนอนโรงพยาบาลเนื่องจากเป็นมะเร็งทุกระยะ ซึ่งจะได้คืนละ 10,000 บาท ในครั้งนี้มี 9 วันเป็นเงิน 90,000 บาทด้วย ซึ่งถ้าไม่ใช่ตัวแทนบริการโดยตรงก็จะตรวจสอบได้ค่อนข้างลำบาก ว่าประกันตัวนี้ได้รับการเคลมส่งเช็คออกไปถึงลูกค้าหรือยัง   

ต้องอธิบายก่อนว่าขั้นตอนที่ยังไม่ได้เคลมนั้นไม่ได้ผิดอะไร เพราะชดเชยค่าห้องโรคปกตินั้นที่จริงแล้วได้มีการส่งเช็คไปให้ที่บ้านลูกค้าแล้ว (ซึ่งส่งไปทันทีที่ออกจากรพ.แล้ว) เพียงแต่ว่าตอนที่นอนผ่าตัดในครั้งนั้นยังไม่ทราบผลว่าเป็นมะเร็งหรือเปล่า ค่าชดเชยค่าห้องเนื่องจากมะเร็งจึงยังไม่ทำงาน แต่เมื่อโจ้ได้มีโอกาสมาบริการจึงได้ช่วยตรวจสอบเพื่อให้เคลมย้อนหลังได้ครบถ้วน

และลูกค้ามั่นใจได้เลยว่าหลังจากนี้ไม่ว่าจะนอนโรงพยาบาลเนื่องจากมะเร็งอีกกี่ครั้งก็จะได้ทุกคืนคืนละ 10,000 บาทสูงสุด 500 คืน คือ 5,000,000 บาทจนกว่ากรมธรรม์หลักจะครบกำหนด ซึ่งตรงนี้อยากให้ความรู้เพิ่มเติมว่าทำไมจึงไม่ควรแนบประกันสุขภาพกับประกันสะสมทรัพย์  เพราะประกันสะสมทรัพย์นั้นเมื่อครบกำหนดใน 10, 20 ปี ตัวประกันสุขภาพที่แนบไปด้วยกันก็จะครบสัญญาไปด้วย หมดความคุ้มครอง และแน่นอนเมื่อเป็นมะเร็งแล้วบริษัทก็มักไม่รับแล้ว(ต้องหายขาดมาเป็นเวลา 5-10 ปี บริษัทถึงจะรับพิจารณา ว่าจะอนุมัติหรือไม่ อีกทีหนึ่ง)   เคสนี้ลูกค้ามีประกันหลักคือ ประกันสะสมทรัพย์ 20 ปี อีก 4 ปีจะครบแล้ว ดังนั้นส่วนประกันโรคร้ายแรงก็จะชดเชยให้ถึงแค่นั้น

1: สิ่งเดียวที่จะเปลี่ยนเรื่องร้ายๆให้จางลงได้ คือ การที่คุณได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีประกันชีวิต ซื้อประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรงไว้เผื่อตั้งแต่ตอนที่ยังมีสุขภาพดี ป้องกันไว้ประหยัดกว่าแก้ไข และประกันมะเร็งอายุน้อยราคาถูกมาก (เช่น อายุ 35 ซื้อประกันโรคร้ายแรงรับเงินก้อน 1 ล้านบาท ผู้ชายจ่ายเพียง 2,260 บาท ผู้หญิงเพียง 3,160 บาท ราคาปรับตามอายุเช็คได้ที่แผน ประกันมะเร็ง )  ยิ่งซื้อไว้นานแล้ว การอนุมัติเคลมนั้นยิ่งรวดเร็ว ไม่ต้องสืบประวัติกันให้เสียเวลาเพราะสุขภาพดีมาหลายๆปี ประวัติดีโปร่งใสไม่ปกปิดไว้แน่นอน ขออย่างเดียว #1 คุณต้องกล้าสมัครประกันในวันที่สุขภาพดี วางแผนไว้ ไม่ได้ใช้ก็ดี ได้ใช้ก็มี

ตัวแทนประกันอย่างโจ้ จะทำได้เพียงแนะนำแผนประกันให้ว่าอะไรดีควรมีไว้บ้าง สิ่งสำคัญยิ่งยามเจ็บป่วยยิ่งต้องเลือกตัวแทนที่บริการ นอกจากเรื่องเคลมแล้ว ก็คอยให้กำลังใจลูกค้าเพราะแม่โจ้ก็เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมาตั้งแต่ปี 2013 ตอนนี้มีโอกาสอุ้มหลานที่เพิ่งคลอดอย่างมีความสุข 

การเลือกซื้อประกันสำหรับโจ้ จึงไม่เคยซื้อผ่านเคาน์เตอร์​ หรือ call center ใดๆ ไม่รู้จักตัวตน ไม่ได้เลือกแต่เพียงเงินคืน แผนคุ้มๆ ลดได้ลด แถมได้แถม ซึ่งอาจจะใช้ตรรกะแบบนี้กับการเลือกซื้อสินค้าอย่างอื่น โดยส่วนตัวแล้วการเลือกซื้อประกันชีวิตและยิ่งประกันสุขภาพ อยากแนะนำให้ความสำคัญที่การเลือกที่ตัวแทนประกันก่อน ที่คุณมั่นใจว่าจะบริการคุณได้ ไม่คดโกง แล้วส่วนบริษัท ข้อเสนอ การเปรียบเทียบแผน เบี้ยประกัน อะไรต่างๆค่อยตามมา ตอนที่โจ้ซื้อประกันกับตัวแทนก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะต่อราคาเพราะเวลาบริการก็อยากให้เค้าเต็มที่  หากจะเอาแต่คุ้มๆกับบริษัทไม่ค่อยมั่นคงบางทีต้องชั่งใจนะ มันมีเหตุมีผลอยู่  มีเคสที่ได้ยินมาว่าเลือกซื้อแผนประกันที่ดูเหมือนจะถูกกว่า วงเงินเบิกเคลมได้มากกว่า แต่แล้วเมื่อต้องเคลมตัวแทนไม่ค่อยดูแล หรือช่วยตรวจสอบวิ่งเต้นให้ไม่ค่อยได้ สุดท้ายแล้วกลับไม่ได้เงินเคลมที่ควรได้ ซึ่งทำให้ลูกค้าเสียผลประโยชน์

สำหรับใครที่สนใจมีประกันมะเร็งป้องกันไว้บ้าง โจ้ได้สรุปแผนประกันมะเร็งที่น่าสนใจให้แล้ว เชื่อโจ้เถอะว่าซื้อประกันมะเร็งให้ผ่านระยะเวลารอคอย 90 วันแล้วคุณจะอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก วงเงินประกันมะเร็ง 500,000 นี้ถือว่าน้อยในสมัยนี้ ส่วนตัวโจ้ได้ทำไว้ที่ 5 ล้านบาท และลูกค้าโดยทั่วไปจะทำไว้ที่ 3 ล้านบาท เพราะเราได้เห็นหลายๆเคสแล้วว่า เมื่อเป็นมะเร็งขึ้นมา หยุดงาน ลาออก อาจจะนอนติดเตียง ต้องมีคนดูแล  ค่ารักษามากมาย เข้าออก ร.พ. ทุกเดือน จึงต้องมีเงินจากประกันมะเร็งนี่แหละปล่อยออกมายามฉุกเฉินที่มากพอจะใช้ได้จริงๆ