พ่อแม่เป็นมะเร็ง ลูกจะสมัครประกันมะเร็งได้ไหม

สำหรับคนที่มีพ่อหรือแม่เป็นมะเร็ง ตัวลูกเองจะรู้ดีเลยว่าการดูแลรักษานั้นใช้เงินค่อนข้างมาก ต้องเข้าออกโรงพยาบาลค่อนข้างบ่อย ลาออกจากงานมาดูแลบ้างทียังต้องการคนช่วยมาสับเปลี่ยนอีก นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมากมายที่ไม่ได้ใช้ในโรงพยาบาล แล้วก็อดคิดไม่ได้ ว่าถ้าถึงคราวตัวเราเองล่ะ ถ้าเกิดเป็นมะเร็งนี้บ้างจะเอาเงินที่ไหนมารักษา แล้วถ้าสมัครประกันมะเร็งจะผ่านไหม วันนี้มีคำตอบครับ

พ่อแม่เป็นมะเร็ง ลูกจะสมัครประกันมะเร็งได้ไหม

อันนี้เป็นคำถามที่มีคนถามโจ้บ่อยอยู่เหมือนกันครับเพราะว่าหลายคนนั้นทราบดีกว่าโรคมะเร็งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แม้ไม่ต้องพิสูจน์ เราก็พอได้ยินได้เห็นอยู่บ่อยๆ ว่าหากครอบครัวไหนต้นสายปู่ย่าตายายมีเป็นมะเร็ง จะพบว่าญาติคนหนึ่งเมื่อถึงวัย 50 ถึง 70 ก็จะพบว่าเป็นมะเร็งเช่นกัน บางตระกูลนั้นเป็นกันหลายคนทีเดียว 
อย่างไรก็ตามนับเป็นเรื่องดีที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าผลทางพันธุกรรมมีผลเกี่ยวเนื่องกัน 100% ข้อดีตรงนี้ทำให้ลูกหลานสามารถสมัครประกันมะเร็งได้ครับ 

เพียงแต่จะมีข้อให้แถลงว่าพ่อแม่เป็นมะเร็งหรือไม่ ซึ่งให้แถลงตามจริง เพราะยังไม่ได้มีผลต่อการพิจารณา ให้รีบสมัคร และยังสามารถซื้อความคุ้มครองมะเร็งได้สูงอยู่ตามเท่าที่แต่ละแบบประกันกำหนดไว้ และเมื่อซื้อแล้วเค้าจะไม่มาปรับผลพิจารณาย้อนหลังครับ 
ยกตัวอย่างตัวโจ้เองนั้นก่อนหน้านี้ได้ทำประกันมะเร็งไว้ที่ 500,000 บาท อายุตอนนั้นเบี้ยเพียง 1,500 บาทเท่านั้นเอง แต่หลังจากนั้นหนึ่งปี พบว่าคุณแม่เป็นมะเร็ง จึงได้ซื้อประกันมะเร็งเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท และได้แถลงไว้ในการซื้อครั้งใหม่ว่าคุณแม่เป็นมะเร็งแล้วนะ ตัวโจ้สุขภาพดี ไม่มีประวัติ ก็สามารถสมัครผ่านได้ไม่ติดขัดอะไรครับ 

สำหรับคนที่คิดว่าต้นตระกูลไม่มีใครเป็นมะเร็งเลย คงไม่เป็นแน่ๆ ไม่ทำประกันมะเร็งหรอก ที่จริงแล้วด้วยตรรกะเดียวกัน การยังไม่มีการฟันธงได้แน่ชัดว่าการเป็นมะเร็งเกิดจากพันธุกรรม ดังนั้นการไม่มีญาติเป็นมะเร็ง ก็ใช่ว่าเราควรปล่อยปละละเลยไม่วางแผนไว้นะครับ อย่างของแม่โจ้นั้น ทั้งตระกูลสายของแม่ อากง อาม่า พี่น้องแม่ 6 คน หลาน 20 กว่าคน เหลนอีก 10 คน ไม่มีใครเป็นมะเร็งเลยครับ มีแม่นี่แหละมาคนแรกแบบไม่ทันตั้งตัว เราถึงรู้ว่าอะไรก็ไม่แน่นอน ที่ทำได้แน่นอนคือการวางแผนเผื่อไว้ครับ

ลูกค้าของโจ้ ที่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเป็นมะเร็งจะรู้ดีเองเลยว่าค่าใช้จ่ายนั้นหนึ่งล้านบาทไม่พอหรอก เค้าจึงมักซื้อความคุ้มครองมะเร็งไว้ที่ 3-5 ล้านบาท ซึ่งเราอาจจะคิดว่าเบี้ยประกันต้องเป็นหลายหมื่น หลานแสนบาทแน่เลย  แท้จริงแผนประกันมะเร็งนั้นไม่แพงเลย เช่น 40 โรคร้ายแรง มีมะเร็งแพร่กระจาย อายุ 35 ซื้อ 5 ล้าน ผู้ชายเบี้ยเพียง 11,300 บาท ผู้หญิงเบี้ยเพียง 15,800 บาท แม้เบี้ยจะปรับขึ้นทุกปี แต่ก็ตามความน่าจะเป็น เพราะนักคณิตศาสตร์ประกันภัยได้คำนวณไว้แล้วว่าซื้อช่วงอายุไหนก็จะได้อัตราที่เหมาะสมสำหรับปีนั้นๆ อย่างไรก็ตามหากอายุเยอะขึ้นแล้วเบี้ยประกันสูงมากเกินไปก็สามารถขอปรับลดลงมาได้ครับ อยากทราบราคา บอก เพศ อายุ วงเงินคุ้มครองมาที่ LINE ID: hijingjoe คลิกแอดเพื่อน http://line.me/ti/p/~hijingjoe#~

ส่วนหนึ่งที่เราซื้อประกันมะเร็งเพราะนอกจากความกังวลทางพันธุกรรมแล้ว เรื่องสภาพแวดล้อมอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย ปัจจัยต่างๆของเรากับแม่นั้น หรือคนในครอบครัวนั้น อาจจะคล้ายกัน หรือเนื่องจากอยู่ที่เดียวกัน กินข้าวก็ด้วยกัน เราจึงคิดว่าโอกาสที่จะเจออะไรเหมือนๆกันนั้นเป็นไปได้ การเตรียมแผนรับมือไว้ก็ถือเป็นการวางแผนที่ดี ดีกว่าที่จะไปลุ้นว่าเป็นหรือไม่เป็น แล้วคำตอบคือ “เป็นมะเร็ง” แล้วไม่มีเงิน เราเห็นสภาพครับว่าการรักษามันแตกต่างกันอย่างไร

แล้วแม้บางคนอาจจะคิดว่าตรอมใจตายไปเลยแล้วกัน แต่เชื่อมั้ยครับว่าคนที่รักษาดีๆนั้น มีอายุอยู่ได้ยาวกว่าคนที่ไม่ระวังตัวเลยด้วยซ้ำ เราเองยังไม่ปล่อยให้พ่อแม่เราเจ็บป่วยทรมานแล้วตายไปเลยแม้เค้าจะมีปลงบ้างก็ตาม แม้เราจะต้องหาเงินทองมารักษาเราก็จะทำอย่างเต็มที่ ใ้ห้เวลาอย่างเต็มที่กับที่คนรัก  สำหรับกรณีตัวเองก็เป็นไปได้ว่าคนรอบตัวคนก็อาจจะทำเช่นเดียวกัน ดังนั้นเราเตรียมเงินไว้เผื่อให้เขาได้หยิบได้ใช้ดีกว่าครับ เผื่อให้เค้ามีเวลาทุ่มเทไปกับการดูแลเราดีกว่า ส่วนเรื่องเงินเราวางแผนของตัวเราเองมีประกันมะเร็งเรียบร้อย เผลอๆก็จะมีเงินเหลือเป็นค่าน้ำใจให้เขาได้อีก อันนี้โจ้คิดวางแผนเผื่อแบบนี้จริงๆ  
บทเรียนหลายอย่างเราเรียนรู้จากคนอื่นได้ครับไม่จำเป็นที่จะต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงดวง เราได้เห็นว่าครอบครัวคนอื่นพ่อก็เป็นมะเร็ง น้องพ่อก็เป็นมะเร็ง ลูกเป็นความเสี่ยงค่อนข้างเยอะเรามาโอนย้ายความเสี่ยงไปที่บริษัทประกันขอรับความเสี่ยงแทนเราวันนี้ดีกว่า